ดอกซากุระ

ดอกซากุระ
ดอกซากุระ ดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่น

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554

น้ำชาล้นถ้วย

จากเอกสารอ้างอิง : นิทานเซ็น มหรสพทางวิญญาณ เพื่อจริยธรรม เล่าโดยพุทธทาสภิกขุ ISBN 978-974-409-959-4
เรื่องที่หนึ่ง เรื่อง น้ำชาล้นถ้วย มีอาจารย์แห่งนิกายเซ็น ชื่อน่ำอิน เป็นผู้มีชื่อเสียงทั่วประเทศ และโปรเฟสเซอร์คนหนึ่ง เป็นโปรเฟสเซอร์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ วันหนึ่งโปรเฟสเซอร์ผู้นี้ได้ไปหาอาจารย์น่ำอินเพื่อขอศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างเซ็น ในการต้อนรับ ท่านอาจารย์น่ำอินได้รินน้ำชาลงถ้วย รินจนล้นแล้วล้นอีก โปรเฟสเซอร์มองดูด้วยความฉงน ทนดูไม่ได้จึงพูดโพล่งออกไปว่า "ท่านจะใส่มันลงไปได้อย่างไร" ประโยคอย่างนี้แสดงว่าโมโห ท่านอาจารย์น่ำอินจึงตอบว่า "ถึงท่านเองก็เหมือนกัน อาตมาจะใส่อะไรลงไปได้อย่างไร เพราะว่าท่านเต็มอยู่ด้วย Opinions และSpeculationsของท่านเอง" คือว่าเต็มไปด้วยความคิดความเห็นตามความยึดมั่นถือมั่นของท่านเอง สองอย่างนี้แหละมันทำให้เข้าใจพุทธศาสนาอย่างเซ็นไม่ได้ เรียกว่าถ้วยชามันล้น ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลาย จะเตือนสติเด็กของเราให้รู้สึกนึกคิดเรื่องอะไรล้น อะไรไม่ล้น ได้อย่างไร ขอให้ช่วยกันหาหนทางในครั้งโบราณในอรรถกถาได้เคยกระแหนะกระแหนถึงพวกพราหมณ์ที่เป็นทิศาปาโมกข์ ต้องเอาเหล็กมาตีเป็นเข็มขัด คาดท้องไว้เนื่องด้วยกลัวท้องจะแตกเพราะวิชาล้น นี้จึงเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างไรก็ลองคิดดู พวกเราอาจล้นหรืออัดอยู่ด้วยวิชาทำนองนั้นจนอะไรใส่ลงไปอีกไม่ได้ หรือความล้นนั้นมันออกมาอาละวาดเอาบุคคลอยู่บ่อยๆบ้างกระมัง? แต่เราคิดดูก็จะเห็นได้ว่า ส่วนที่ล้นนั้นคงจะเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้ ส่วนที่ร่างกายรับเอาไว้ได้ก็คงเป็นส่วนที่มีประโยชน์ ฉะนั้นจริยธรรมแท้ๆไม่มีวันจะล้น โปรดนึกดูว่าจริยธรรมหรือธรรมะแท้ๆไม่มีวันจะล้น โปรดนึกดูว่าจริยธรรมหรือธรรมะแท้ๆนั้นมีอาการล้นได้ไหม ถ้าล้นไม่ได้ ถ้าล้นไม่ได้ก็หมายความว่าสิ่งที่ล้นนั้นมันก็ไม่ใช่จริยธรรม ไม่ใช่ธรรมะ ล้นออกไปเสียให้หมดก็ดีเหมือนกัน หรือถ้าจะพูดอย่างลึกเป็นธรรมะลึกก็ว่า จิตแท้ๆไม่มีวันล้น อ้ายที่ล้นนั้นมันเป็นของปรุงแต่งจิตไม่ใช่ตัวจิตแท้ มันล้นได้มากมาย แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าจิตแท้คืออะไร? อะไรควรจะเป็นจิตแท้และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ใช่จิตแท้ คือเป็นเพียงความคิดปรุงแต่ง ซึ่งจะล้นไหลไปเรื่อย นี่แหละรีบค้นหาให้พบสิ่งที่เรียกว่าจิตจริงๆกันเสียสักทีก็ดูเหมือนจะดี ในที่สุดท่านจะพบตัวธรรมะอย่างสูง ที่ควรแก่นามที่จะเรียกว่าจิตแท้หรือจิตเิดิมแท้ ซึ่งข้อนั้นได้แก่ภาวะแห่งความว่าง จิตที่ประกอบด้วยสภาวะแห่งความว่างจาก "ตัวกู ของกู" นั่นแหละคือจิตแท้ ถ้าว่างแล้วมันจะเอาอะไรล้น? นี่เพราะเนื่องจากไม่รู้จักว่าอะไรเป็นอะไร จึงบ่นกันแต่เรื่องล้น การศึกษาก็ถูกบ่นว่าล้น และที่ร้ายกาจที่สุดก็คือที่พูดว่าศาสนานี้เป้นส่วนที่ล้น จริยธรรมเป็นส่วนที่ล้น คือส่วนที่เกิน คือเกินต้องการ ไม่ต้องเอามาใส่ใจไม่ต้องเอามาสนใจ เขาคิดว่าเขาไม่ต้องเกี่ยวกับศาสนาหรือธรรมะเลย เขาก็เกิดมาได้ พ่อแม่ก็มีเงินให้เขาใช้ ให้เขาเล่าเรียน เรียนเสร็จแล้วก้ทำราชการเป็นใหญ่เป็นโตได้ โดยไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาเลย ฉะนั้นเขาเขี่ยศาสนาหรือธรรมะออกไป ในฐานะเป็นส่วนล้น คือไม่จำเป็น นี่แหละเขาจัดส่วนล้นให้แก่ศาสนาอย่างนี้ คนชนิดนี้จะต้องอยู่ในลักษณะที่ล้นเหมือนโปรเฟสเซอร์คนนั้น ที่อาจารย์น่ำอินจะต้องรินน้ำชาใส่ให้ดูต่อหน้า โดยทำนองนี้ทั้งนั้น เขามีความเข้าใจผิดล้น ความเข้าใจถูกนั้นยังไม่เต็ม มันล้นออกมาให้เห็นเป็นรูปของมิจฉาทิฏฐิ เพราะเขาเห็นว่าเขามีอะไรๆของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว ส่วนที่เป็นธรรมะเป็นจริยธรรมจึงไม่เข้า ขอจงคิดดูให้ดีเถอะว่า นี่แหละคือมูลเหตุที่ทำให้จริยธรรมรวนเรและพังทลาย ถ้าเรามีหน้าที่ที่จะต้องผดุงส่วนนี้แล้ว จะต้องสนใจเรื่องนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น